Jerry Seinfeld จดจ่ออยู่กับการโต้เถียงของ Dave Chappelle แต่หลีกเลี่ยงการดำดิ่งลงไปในบทพูดคนเดียวของ Saturday Night Live ที่แตกแยกของนักแสดงตลก หลังจากที่ Chappelle เป็นผู้เปิดรายการ SNL ซึ่งถูกประณามโดย Anti-Defamation League สำหรับการทำให้ลัทธิต่อต้านชาวยิวเป็นปกติ Seinfeld ได้ตำหนิอย่างคลุมเครือต่อ The Hollywood Reporter บอกกับร้านว่าการพูดคนเดียวของ Chappelle”เรียกร้องให้มีการพูดคุยกัน”

เมื่อ THR ถามว่าเขาคิดว่าเป็นของ Chappelle หรือไม่ ความคิดเห็นเกี่ยวกับ SNL เป็นเรื่องตลก Seinfeld กล่าวว่า”ฉันคิดว่าหนังตลกดำเนินไปได้ดี แต่ฉันคิดว่าหัวข้อนี้เรียกร้องให้มีการสนทนาที่ฉันไม่คิดว่าฉันต้องการจะมีในสถานที่นี้”

หลังจากผู้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นว่า”แต่มันทำให้คุณไม่สบายใจ”Seinfeld ยังคงเป็นกลางและตอบว่า”มันกระตุ้นการสนทนาซึ่งหวังว่าจะมีประสิทธิผล”

นักแสดงตลกยังปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่เพื่อนสนิทกับ Chappelle และเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ คุยกับ Chappelle เกี่ยวกับการพูดคนเดียว เขาบอกกับ THR ว่า “ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขา เราเป็นเพื่อนกันและไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด”

ความคิดเห็นของ Seinfeld เกิดขึ้นหลังจากที่ Jon Stewart เสนอบทพูดคนเดียวของ Chappelle ในแบบของเขาเองในขณะที่ปรากฏตัวในรายการ The Late Show with Stephen Colbert ในวันอังคาร (15 พ.ย.) Stewart ผู้ซึ่งกล่าวว่าเขาและ Chappelle เป็นเพื่อนที่ดี ปกป้องเขาจากนักวิจารณ์ โดยบอกกับ Colbert ว่า “ฉันไม่เชื่อว่าการเซ็นเซอร์และบทลงโทษเป็นหนทางที่จะยุติการต่อต้านชาวยิวหรือเพื่อไม่เข้าใจ ฉันไม่เชื่อในสิ่งนั้น และฉันคิดว่ามันเป็นวิธีที่ผิดที่เราจะเข้าหามัน”

Chappelle กระตุ้นการสนทนามากมายหลังจากที่เขาปรากฏตัวในรายการ SNL เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งเขาเปิดรายการโดย พูดถึงคานเย เวสต์และไครี เออร์วิง ซึ่งทั้งคู่ตกเป็นเป้าของการต่อต้านชาวยิวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

มีอยู่ช่วงหนึ่งในบทพูดคนเดียวของเขา นักแสดงตลกบอกกับผู้ชมว่าเขาเข้าใจวิธีที่เวสต์สามารถ”รับเอาความเข้าใจผิดที่ว่า ชาวยิวทำธุรกิจการแสดง” กล่าวต่อ “ไม่ใช่เรื่องบ้าที่จะคิด – แต่มันเป็นเรื่องบ้าที่จะพูดออกมาดัง ๆ ในสภาพอากาศเช่นนี้”

เขาทิ้งท้ายด้วยการขุดคุ้ยวัฒนธรรมการยกเลิก พูดว่า”มันไม่ควรน่ากลัวที่จะพูดถึงอะไร มันทำให้งานของฉันยากอย่างไม่น่าเชื่อ” และเสริมว่า “ฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่พรากอะไรไปจากฉัน’พวกเขา’คือใคร”